ITO Thailand Hygiene Blog
การควบคุมเชิงป้องกันในอาหารมนุษย์
ทำความรู้จักกับการควบคุมเชิงป้องกันและกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
การควบคุมเชิงป้องกันในอาหารมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงความปลอดภัยด้านอาหารให้ทันสมัย [Food Safety Modernization Acts (FSMA)] (1) ของ USFDA หรือองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (สามารถศึกษาฉบับเต็มได้ที่นี่) โดยการควบคุมเชิงป้องกันเป็นส่วนหนึ่งของมาตราที่ 103 ในหัวข้อ FSMA Final Rule for Preventive Controls for Human Food (2) ซึ่ง ประกอบด้วยการปฏิบัติตามสุขลักษณะที่ดีในการผลิต (GMP), วิเคราะห์อันตราย (Hazard analysis) และการควบคุมเชิงป้องกันด้านความเสี่ยง (Risk-based preventive control)
การควบคุมเชิงป้องกันเน้นในการ”ป้องกัน”การเกิดปัญหา ไม่ใช่แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายในอาหารจากที่เราได้ปฏิบัติตามสุขลักษณะที่ดี และมีการวิเคราะห์อันตรายมาเรียบร้อยแล้ว
การควบคุมเชิงป้องกัน ควบคุมอะไรบ้าง?
ในการออกแบบการควบคุมเชิงป้องกัน เพื่อเขียนเป็นวิธีการในการปฏิบัตินั้น จะมีความแตกต่างกันตามแต่ละองค์กร ขึ้นกับชนิดของอาหาร ลักษณะของกระบวนการผลิต และปัจจัยต่าง ๆ แต่โดยหลักการแล้ว จะสามารถแบ่งการควบคุมเชิงป้องกันตามเป้าหมายของการควบคุม ได้ดังนี้
•การควบคุมกระบวนการผลิต (Process control): การควบคุมในส่วนนี้รวมถึงการให้ความร้อน การแช่เย็นแช่แข็ง การปรับกรด การฆ่าเชื้อ การทำแห้ง การเก็บรักษาวัตถุดิบ การคัดแยกสิ่งแปลกปลอม การควบคุมสารเคมีในสูตรอาหาร หรือปฏิบัติการใด ๆ ที่ทำเพื่อให้อาหารมีความปลอดภัย โดยต้องมีการระบุพารามิเตอร์และค่าลิมิตการยอมรับเป็นตัวเลขที่สามารถวัดได้ชัดเจน (เช่น เวลา อัตราการไหล ความหนืด ความชื้น ความเข้มข้น ค่าความเป็นกรด ขนาด ฯลฯ) และวิธีการที่จะควบคุมให้พารามิเตอร์เป็นไปในลิมิตที่กำหนดอีกด้วย โดยในหลาย ๆ กรณี เป็นลักษณะเดียวกันกับการวิเคราะห์และควบคุมอันตรายในระบบมาตรฐาน HACCP
•การควบคุมสารก่อภูมิแพ้ (Food allergen control): สารก่อภูมิแพ้เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่การควบคุมความปลอดภัยในอาหารให้ความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่แพ้โปรตีนบางชนิดในอาหาร จนเกิดอาการภูมิแพ้ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย (อ่านเพิ่มเติม) สำหรับในส่วนนี้ องค์กรต้องมีการเขียนวิธีการในการควบคุมการปนเปื้อนข้ามของสารก่อนภูมิแพ้ รวมถึงการติดฉลากแสดงรายการส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างเหมาะสมด้วย
•การควบคุมสุขาภิบาล (Sanitation control): การควบคุมสุขาภิบาลเป็นการออกแบบวิธีการ การปฏิบัติ กฏข้อบังคับ หรือกระบวนการทีเกี่ยวข้อง เพื่อให้สภาวะในการผลิตมีความสะอาด ลดหรือกำจัดอันตราย (เช่น การปนเปื้อนจุลินทรีย์ก่อโรคจากสิ่งแวดล้อม การปนเปื้อนข้าม (จุลินทรีย์และสารก่อภูมิแพ้) และอันตรายจากการปฏิบัติของพนักงาน ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การวางแผนหรือออกแบบอาคาร การกำหนดระดับความเสี่ยงของพื้นที่ผลิตอาหาร การกำหนดวิธีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่เหมาะสม การกำหนดเครื่องแต่งกาย มาตรการป้องกันการปนเปื้อนจากมนุษย์ เป็นต้น
•การควบคุมห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain control): เนื่องจากในปัจจุบัน ปัญหาสินค้าหลาย ๆ ครั้ง เกิดจากความผิดพลาดของผู้ผลิต (Supplier) ในการส่งวัตถุดิบที่มีการปนเปื้อนหรือมีอันตราย และเกิดการนำวัตถุดิบนั้น ๆ มาผลิตต่อ จนส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนั้น การควบคุมเชิงป้องกันข้อนี้ จึงมุ่งเน้นในควบคุมการรับวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต โดยต้องมีกระบวนการในการตรวจสอบว่า ผู้ที่ผลิตวัตถุดิบ มีมาตรฐานกระบวนการผลิตที่ดี มีใบรับรองที่เหมาะสม รวมถึงมีการตรวจสอบ หรือตรวจประเมินอย่างสม่ำเสมอว่าผู้ผลิตยังคงรักษามาตรฐานการผลิตนั้น ๆ ไว้ได้
•การวางแผนการเรียกคืนสินค้า (Recall plan): นอกจากในส่วนของการตรวจสอบผู้ผลิตแล้ว การให้ความสำคัญกับการเรียกคืนสินค้า เพื่อปกป้องผู้บริโภคก่อนที่จะเกิดอันตรายเพิ่มเติม ก็นับเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญ จึงต้องมีการวางแผนเขียนขั้นตอนการปฏิบัติหากเกิดปัญหา เพื่อปกป้องผู้บริโภคด้วย
•การควบคุมอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ก่อนหน้า แต่มีความจำเป็นเพื่อลดหรือขจัดอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
ในปัจจุบัน แนวทางในการปฏิบัติเพื่อควบคุมอันตรายเชิงป้องกัน ยังอยู่ในระหว่างการร่าง ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่
ทางบริษัทอิโตะ (ไทยแลนด์) ยินดีร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารเพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในสังคมอาหารปลอดภัยอย่างยั่งยืน หากท่านมีความสนใจในการควบคุมความสะอาดและสุขาภิบาล สามารถติดต่อเรา เพื่อปรึกษาปัญหา และออกแบบการแก้ไขให้เหมาะสมกับองค์กรของท่านโดยเฉพาะ
เอกสารอ้างอิง
Related Post
-
แหล่งที่มาของสารพิษในอาหาร Food Toxin source
อาหารไม่ปลอดภัย อาจอันตรายถึงชีวิต! ทราบหรือไม่ว่าสารพิษในอาหาร มาจากที่ใดได้บ้าง?
-
Mythbusters: ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร จริงหรือมั่ว!? (ตอนที่ 2)
เช็คความรู้ความปลอดภัยอาหารกันหน่อย! ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยในอาหารอีกหลายข้อที่น่าสนใจมานำเสนอ ข้อไหนใช่ ข้อไหนมั่ว!?
-
Mythbusters: ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร จริงหรือมั่ว!? (ตอนที่ 1)
ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกกันนะ? คุณเคยได้ยินความเชื่อแบบนี้หรือไม่? แล้วความจริงเป็นอย่างไรกันแน่
-
การปนเปื้อนของน้ำมันแร่ในอาหาร (Mineral Oil Contamination in Food)
น้ำมันแร่พบได้อย่างกว้างขวางในสภาพแวดล้อมของเรา และส่วนประกอบของน้ำมันแร่สามารถนำไปใช้เป็นอาหารจากพืชและสัตว์ได้ผ่านช่องทางต่างๆ สารประกอบหลักที่น่าเป็นกังวลในแง่ขององค์ประกอบทางเคมี ได้แก่ ไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัวของน้ำมันแร่ (Mineral oil-saturated hydrocarbon - MOSH) และไฮโดรคาร์บอนอะโรมาติกของน้ำมันแร่ (Mineral oil aromatic hydrocarbons - MOAH) ในระดับที่น้อยกว่า สารเหล่านี้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายเมื่อบริโภคผ่านอาหาร และมีศักยภาพที่จะสะสมในไขมันในร่างกายและอวัยวะเฉพาะต่างๆ โดยปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาใดที่ตรวจสอบผลกระทบของสารเหล่านี้ต่อมนุษย์ ดังนั้นการประเมินทางพิษวิทยาจึงอาศัยการทดลองในสัตว์ สถาบันกลางเพื่อการประเมินความเสี่ยง (Bundesinstitut für Risikobewertung, BfR) แนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภค MOAH เนื่องจากความเป็นไปได้ของสารประกอบก่อมะเร็ง
-
ยาปฏิชีวนะในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (Antibiotics in Animal Products)
ยาปฏิชีวนะมีความจำเป็นในการปกป้องสัตว์จากการติดเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากสัตว์มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคปอดบวม เช่นเดียวกับมนุษย์ และยาปฏิชีวนะเป็นวิธีที่มีมนุษยธรรมและคุ้มค่าในการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อเหล่านี้ ผู้ผลิตปศุสัตว์ต่างมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสวัสดิภาพของสัตว์ที่อยู่ในความดูแล และการปล่อยให้สัตว์เหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากการติดเชื้อทั้งที่รักษาได้ง่ายด้วยยาปฏิชีวนะนั้นถือว่าไร้มนุษยธรรม
-
รวมเรื่องราวเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร ในปี 2023 part 2
รู้ไหมว่ามีเรื่องราวอะไรบ้างในโลกของความปลอดภัยของอาหารในรอบครึ่งหลังที่ผ่านมาของปี 2023?