ITO Thailand Hygiene Blog
อัพไซเคิล (ตอนที่ 1): วิถีใหม่เพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหาร
Upcycle (I): A New Frontier in Food Industry Sustainability
อัพไซเคิล (ตอนที่ 1): วิถีใหม่เพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหาร
หนึ่งในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน มักได้ยินเรื่องการจัดการของเสียด้วยหลักการ 3Rs คือ Reduce (การประหยัดและลดปริมาณของเสีย), Reuse (การใช้ซ้ำโดยไม่ผ่านกระบวนการ), และ Recycle (การนำของเสียไปเปลี่ยนสภาพเพื่อใช้ประโยชน์) อยู่เสมอ นับว่าเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการลดการใช้ทรัพยาการรวมถึงการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในสภาพความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้ว่าในอุตสาหกรรมอาหารแต่ละองค์กร จะมีความพยายามที่จะปฏิบัติตามหลักการ 3Rs แต่ทว่าปัญหาเรื่องของเสียจากอุตสาหกรรมอาหาร ก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่มีความพยายามที่จะแก้ไขอยู่เสมอ เนื่องจากสาเหตุหลากหลายประการ เช่น เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาหารผลิตมาจากวัตถุดิบการเกษตร การปศุสัตว์ และการประมง ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีส่วนที่ไม่สามารถรับประทานได้ ที่ต้องผ่านกระบวนการในการแยกหรือกำจัดออก เช่น ก้างและกระดูกของสัตว์ เมล็ด แกนและเปลือกของพืช รวมถึงการตัดแต่งต่าง ๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพตามที่กำหนด, ปัญหาเรื่องความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในการจัดการกับขยะหรือของเสียในกระบวนการผลิต ซึ่งบางครั้ง การรีไซเคิลกลับมีต้นทุนที่สูง ไม่คุ้มค่ากับผลิตภัณฑ์ที่ได้ หรือแม้แต่นโยบายเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร ทำให้มีความจำเป็นต้องกำจัดอาหารที่ไม่ถึงมาตรฐานความปลอดภัย เป็นต้น
ดังนั้นแล้ว นี่จึงเป็นที่มาของกระบวนการอัพไซเคิล ที่เข้ามาช่วยให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย
การอัพไซเคิลคืออะไร? แตกต่างจากการรีไซเคิลอย่างไร?
สำหรับการอัพไซเคิลโดยทั่วไป Cambridge dictionary ได้ให้นิยามไว้ว่า
[to make new furniture, objects, etc. out of old or used things or waste material] หรือหมายถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่จากวัสดุเก่า, วัสดุใช้แล้ว หรือขยะ
ส่วนการรีไซเคิล Cambridge dictionary ได้ให้นิยามไว้ว่า
[to sort and collect rubbish in order to treat it and produce useful materials that can be used again.] หรือหมายถึงการเก็บและคัดแยกขยะ เพื่อผ่านกระบวนการเป็นวัสดุเพื่อใช้ซ้ำ
จะเห็นความแตกต่างว่า การรีไซเคิลมีเป้าหมายเพื่อใช้วัสดุนั้น ๆ ซ้ำอีกครั้ง ซึ่งโดยทั่วไป มักเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าไม่สูงกว่าเดิม ในขณะที่การอัพไซเคิล มุ่งเน้นให้เกิดผลิตภัณฑ์ “ใหม่ ๆ” ซึ่งในจุดนี้ ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น มักเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและมีมูลค่า
นอกจากนิยามข้างต้นแล้ว สำหรับอาหารที่ผลิตจากกระบวนการอัพไซเคิลนั้น The Upcycled Food Definition Task Force (2020) ได้ให้นิยามเฉพาะเรื่องอาหารอัพไซเคิลว่า
เป็นผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบที่ไม่ได้ถูกบริโภคโดยมนุษย์ โดยมีกระบวนการจัดหาและกระบวนการผลิตด้วยห่วงโซ่อุปทานที่ตรวจสอบได้ และให้ผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม
[Upcycled foods use ingredients that otherwise would not have gone to humanconsumption, are procured and produced using verifiable supply chains, and have a positive impact on the environment.]
โดยประกอบด้วยองค์ประกอบ 5 อย่าง คือ
•วัตถุดิบทำจากส่วนที่เป็นของเสีย
•มีการเพิ่มมูลค่า
•เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มนุษย์สามารถบริโภคได้
•มีห่วงโซ่อุปทานที่มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
•มีการระบุองค์ประกอบที่ถูกอัพไซเคิลลงบนฉลาก
ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ เรื่องการอัพไซเคิลในอุตสาหกรรมอาหาร คือ แทนที่ของเสียจากวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร จะถูกรีไซเคิล โดยใช้เป็นปุ๋ย อาหารสัตว์ หมักเป็นแก๊สไบโอดีเซล หรือการเผาเพื่อสร้างพลังงาน การอัพไซเคิลจะเป็นการนำส่วนเกินเหล่านั้นมาทำประโยชน์เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การสกัดสารฟังก์ชัน การสกัดน้ำมัน ฯลฯ ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นอาหาร จะถูกเรียกว่าอาหารอัพไซเคิล (upcycled food) ซึ่งต้องมีการระบุฉลากและกระบวนการผลิตที่ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ ของเสียจากอุตสาหกรรมอาหาร ก็สามารถผ่านกระบวนการอัพไซเคิลเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ (เช่น บรรจุภัณฑ์ เครื่องสำอางค์ วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ) ที่มีมูลค่ามากขึ้นและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคได้เช่นกัน
ซึ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากของเสียในอุตสาหกรรมอาหาร ต้องเป็นการบูรณาการระหว่าง ความเข้าใจในวัตถุดิบ องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงการให้ความรู้ความเข้าใจผู้บริโภค
โปรดติดตามคอนเทนท์ครั้งหน้าเกี่ยวกับตัวอย่างไอเดียในการอัพไซเคิลผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหาร ได้ที่ ITO (Thailand) Hygiene blog และ Facebook: ITOHygieneThailand
เอกสารอ้างอิง
1.The Upcycled Food Definition Task Force (2020). Defining Upcycled Foods. online:https://chlpi.org/wp-content/uploads/2013/12/Upcycled-Food_Definition.pdf
Related Post
-
แหล่งที่มาของสารพิษในอาหาร Food Toxin source
อาหารไม่ปลอดภัย อาจอันตรายถึงชีวิต! ทราบหรือไม่ว่าสารพิษในอาหาร มาจากที่ใดได้บ้าง?
-
Mythbusters: ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร จริงหรือมั่ว!? (ตอนที่ 2)
เช็คความรู้ความปลอดภัยอาหารกันหน่อย! ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยในอาหารอีกหลายข้อที่น่าสนใจมานำเสนอ ข้อไหนใช่ ข้อไหนมั่ว!?
-
Mythbusters: ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร จริงหรือมั่ว!? (ตอนที่ 1)
ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกกันนะ? คุณเคยได้ยินความเชื่อแบบนี้หรือไม่? แล้วความจริงเป็นอย่างไรกันแน่
-
การปนเปื้อนของน้ำมันแร่ในอาหาร (Mineral Oil Contamination in Food)
น้ำมันแร่พบได้อย่างกว้างขวางในสภาพแวดล้อมของเรา และส่วนประกอบของน้ำมันแร่สามารถนำไปใช้เป็นอาหารจากพืชและสัตว์ได้ผ่านช่องทางต่างๆ สารประกอบหลักที่น่าเป็นกังวลในแง่ขององค์ประกอบทางเคมี ได้แก่ ไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัวของน้ำมันแร่ (Mineral oil-saturated hydrocarbon - MOSH) และไฮโดรคาร์บอนอะโรมาติกของน้ำมันแร่ (Mineral oil aromatic hydrocarbons - MOAH) ในระดับที่น้อยกว่า สารเหล่านี้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายเมื่อบริโภคผ่านอาหาร และมีศักยภาพที่จะสะสมในไขมันในร่างกายและอวัยวะเฉพาะต่างๆ โดยปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาใดที่ตรวจสอบผลกระทบของสารเหล่านี้ต่อมนุษย์ ดังนั้นการประเมินทางพิษวิทยาจึงอาศัยการทดลองในสัตว์ สถาบันกลางเพื่อการประเมินความเสี่ยง (Bundesinstitut für Risikobewertung, BfR) แนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภค MOAH เนื่องจากความเป็นไปได้ของสารประกอบก่อมะเร็ง
-
ยาปฏิชีวนะในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (Antibiotics in Animal Products)
ยาปฏิชีวนะมีความจำเป็นในการปกป้องสัตว์จากการติดเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากสัตว์มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคปอดบวม เช่นเดียวกับมนุษย์ และยาปฏิชีวนะเป็นวิธีที่มีมนุษยธรรมและคุ้มค่าในการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อเหล่านี้ ผู้ผลิตปศุสัตว์ต่างมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสวัสดิภาพของสัตว์ที่อยู่ในความดูแล และการปล่อยให้สัตว์เหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากการติดเชื้อทั้งที่รักษาได้ง่ายด้วยยาปฏิชีวนะนั้นถือว่าไร้มนุษยธรรม
-
รวมเรื่องราวเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร ในปี 2023 part 2
รู้ไหมว่ามีเรื่องราวอะไรบ้างในโลกของความปลอดภัยของอาหารในรอบครึ่งหลังที่ผ่านมาของปี 2023?