ITO Thailand Hygiene Blog
4 ด้านความเสียหาย หากผลิตภัณฑ์อาหารของท่านไม่ปลอดภัย (Part 2)
3.การถูกดำเนินการทางกฏหมาย
ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ประเทศไทย ได้ระบุว่า หากอาหาร(รวมไปถึงภาชนะบรรจุ) มีการปนเปื้อน ไม่บริสุทธิ์ มีการปลอมปน ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ถูกสุขอนามัย หรือน่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ผู้ผลิตอาหารนั้นอาจถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตในการผลิตอาหารได้
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ได้ระบุโทษปรับเงินหรือจำคุก เช่น หากผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ในราชกิจจานุเบกษา เช่น ส่วนผสม วัตถุเจือปนอาหาร การตรวจวัดและการวิเคราะห์ อาจถูกโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท (มาตรา 47), กรณีภาชนะบรรจุไม่เป็นไปตามที่กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 48) เป็นต้น โดยสรุปเบื้องต้นดังตารางด้านล่างนี้ และท่านสามารถอ่านข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ตารางที่ 1 สรุปบทกำหนดโทษของพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522[1]
4.การถูกเรียกคืน/ถอนคืนผลิตภัณฑ์ Product recall/ withdrawal
นอกจากการดำเนินคดีแล้ว อาหารที่ไม่ปลอดภัยจะต้องมีการเรียกคืนหรือถอนคืนออกจากตลาด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับผู้บริโภค โดยความแตกต่างของการเรียกคืน (Food recall) และการถอนคืน (Withdrawal) คือ การเรียกคืนอาหาร เป็นการนำอาหารที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพออกจากการขายทันที โดยผู้ผลิต/นำเข้าต้องเป็นผู้เรียกคืนและแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนการถอนคืน เป็นการนำผลิตภัณฑ์อาหารที่ยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจมีความเสี่ยง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน, ฉลากผิดปกติ หรือกรณีรอตรวจสอบความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพเพิ่มเติม [2]
เมื่อเกิดกรณีปัญหาเรื่องอาหารปลอดภัย ผู้ผลิตอาหารในกลุ่มเดียวกันหรือใกล้เคียง ควรพิจารณากระบวนการผลิตและความเสี่ยงของตนเองเพิ่มเติม ว่ามีความเสี่ยงกรณีเดียวกับที่เกิดปัญหาหรือไม่ และสามารถวางมาตรการเพื่อป้องกันการปนเปื้อนอย่างไรได้บ้าง เพื่อป้องกันปัญหาและเป็นการยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัยขององค์กรให้อัพเดทสม่ำเสมอ
สำหรับข่าวสารการเรียกคืนสินค้า ทางสำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย ได้จัดทำประชาสัมพันธ์เรื่องการเรียกคืนผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ปลอดภัยต่าง ๆ ท่านสามารถติดตามข่าวสารดังกล่าวได้ที่นี่
Related Post
-
แหล่งที่มาของสารพิษในอาหาร Food Toxin source
อาหารไม่ปลอดภัย อาจอันตรายถึงชีวิต! ทราบหรือไม่ว่าสารพิษในอาหาร มาจากที่ใดได้บ้าง?
-
Mythbusters: ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร จริงหรือมั่ว!? (ตอนที่ 2)
เช็คความรู้ความปลอดภัยอาหารกันหน่อย! ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยในอาหารอีกหลายข้อที่น่าสนใจมานำเสนอ ข้อไหนใช่ ข้อไหนมั่ว!?
-
Mythbusters: ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร จริงหรือมั่ว!? (ตอนที่ 1)
ความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกกันนะ? คุณเคยได้ยินความเชื่อแบบนี้หรือไม่? แล้วความจริงเป็นอย่างไรกันแน่
-
การปนเปื้อนของน้ำมันแร่ในอาหาร (Mineral Oil Contamination in Food)
น้ำมันแร่พบได้อย่างกว้างขวางในสภาพแวดล้อมของเรา และส่วนประกอบของน้ำมันแร่สามารถนำไปใช้เป็นอาหารจากพืชและสัตว์ได้ผ่านช่องทางต่างๆ สารประกอบหลักที่น่าเป็นกังวลในแง่ขององค์ประกอบทางเคมี ได้แก่ ไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัวของน้ำมันแร่ (Mineral oil-saturated hydrocarbon - MOSH) และไฮโดรคาร์บอนอะโรมาติกของน้ำมันแร่ (Mineral oil aromatic hydrocarbons - MOAH) ในระดับที่น้อยกว่า สารเหล่านี้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายเมื่อบริโภคผ่านอาหาร และมีศักยภาพที่จะสะสมในไขมันในร่างกายและอวัยวะเฉพาะต่างๆ โดยปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาใดที่ตรวจสอบผลกระทบของสารเหล่านี้ต่อมนุษย์ ดังนั้นการประเมินทางพิษวิทยาจึงอาศัยการทดลองในสัตว์ สถาบันกลางเพื่อการประเมินความเสี่ยง (Bundesinstitut für Risikobewertung, BfR) แนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภค MOAH เนื่องจากความเป็นไปได้ของสารประกอบก่อมะเร็ง
-
ยาปฏิชีวนะในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (Antibiotics in Animal Products)
ยาปฏิชีวนะมีความจำเป็นในการปกป้องสัตว์จากการติดเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากสัตว์มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคปอดบวม เช่นเดียวกับมนุษย์ และยาปฏิชีวนะเป็นวิธีที่มีมนุษยธรรมและคุ้มค่าในการป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อเหล่านี้ ผู้ผลิตปศุสัตว์ต่างมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสวัสดิภาพของสัตว์ที่อยู่ในความดูแล และการปล่อยให้สัตว์เหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากการติดเชื้อทั้งที่รักษาได้ง่ายด้วยยาปฏิชีวนะนั้นถือว่าไร้มนุษยธรรม
-
รวมเรื่องราวเกี่ยวกับความปลอดภัยอาหาร ในปี 2023 part 2
รู้ไหมว่ามีเรื่องราวอะไรบ้างในโลกของความปลอดภัยของอาหารในรอบครึ่งหลังที่ผ่านมาของปี 2023?