ITO Thailand Hygiene Blog
อัพเดทมาตรฐานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารในปี 2568
ปี 2568 นับเป็นอีกหนึ่งปีที่อุตสาหกรรมอาหารต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านมาตรฐานและกฎระเบียบอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศไทยและในระดับสากล การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีความสำคัญต่อทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า-ส่งออก ไปจนถึงผู้บริโภค
บทความนี้จึงรวบรวม ไฮไลต์การปรับปรุงมาตรฐานอาหารที่สำคัญในปี 2568 เพื่อช่วยให้ผู้อยู่ในอุตสาหกรรมสามารถติดตามทิศทางกฎระเบียบ และเตรียมความพร้อมได้อย่างเหมาะสม
การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานอาหารที่สำคัญของประเทศไทย
•ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 457 พ.ศ. 2568 ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย วุ้นหรือเยลลี่ที่ทำจากกลูโคแมนแนนในภาชนะถ้วยขนาดเล็ก ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 5 เซนติเมตร เนื่องจากมีรายงานความเสี่ยงด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะอันตรายจากการสำลัก อุดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต
•ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 466และ 467 พ.ศ. 2568 ว่าด้วยเรื่อง การแสดงฉลากโภชนาการ ซึ่งเป็นการปรับปรุงรูปแบบและรายละเอียดของข้อมูลโภชนาการให้มีความชัดเจนมากขึ้น
ผู้ประกอบการสามารถศึกษาสรุปรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงได้จากเอกสารทางการของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ที่นี่ และ ที่นี่
•ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 468 พ.ศ. 2568 เป็นการปรับปรุง ประกาศเรื่องวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 4) โดยมีการ
-เพิ่มหมวดอาหารใหม่
-ปรับปรุงปริมาณสูงสุดที่อนุญาตใช้
-เพิ่มหรือปรับเงื่อนไขการใช้ในผลิตภัณฑ์บางประเภท
ตัวอย่างเช่น การเพิ่มหมวดอาหาร เครื่องดื่มน้ำนมถั่วเหลือง และ ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองหมัก สำหรับการกำหนดปริมาณการใช้ Acesulfame K หรือ การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับการใช้ microcrystalline cellulose ในเวย์ชนิดแห้ง โดยยังคงปริมาณเดิม แต่เพิ่มข้อยกเว้นสำหรับบางผลิตภัณฑ์
ผู้ประกอบการควรตรวจสอบรายละเอียดในประกาศฉบับเต็ม เพื่อให้การใช้วัตถุเจือปนอาหารเป็นไปตามข้อกำหนดล่าสุด
มาตรฐานอาหารสำคัญระดับสากล
1.สหรัฐอเมริกา (US FDA)
•เตรียมเพิกถอนการอนุญาตการใช้สีผสมอาหาร Orange B [1] และ Red No.3 [2] ซึ่ง การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนทิศทางของ FDA ในการทบทวนความปลอดภัยของวัตถุเจือปนอาหาร โดยเฉพาะสีผสมอาหารที่มีการใช้งานมาเป็นเวลานาน
•เตรียมจัดประชุมสาธารณะเกี่ยวกับ Food Allergen Thresholds หรือเกณฑ์อ้างอิงค่าปริมาณต่ำสุดที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในอาหาร โดยกำหนดการประชุมหลักในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2569 และการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม (listening sessions) ในวันที่ 19–20 กุมภาพันธ์ 2569 [3] ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนามาตรฐานการจัดการสารก่อภูมิแพ้ในอาหารในอนาคต
2.สหภาพยุโรป (European Union: EU)
•เตรียมใช้งานระเบียบของสหภาพยุโรปว่าด้วยการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation Regulation: EUDR) โดยระเบียบดังกล่าวครอบคลุมสินค้า 7 กลุ่มหลัก ได้แก่ โค โกโก้ กาแฟ น้ำมันปาล์ม ยางพารา ถั่วเหลือง และไม้
ซึ่งกำหนดให้สินค้าที่จำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรปต้องไม่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่า อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังมีการผ่อนผันและเลื่อนการบังคับใช้จากกำหนดการเดิมที่จะเริ่มในช่วงปลายปี 2568 [4]
•แผนห้ามใช้ PFAS ในบรรจุภัณฑ์อาหาร ภายใต้กฎระเบียบ Packaging and Packaging Waste Regulation (PPWR) (Regulation (EU) 2025/40) ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568
กฎระเบียบนี้กำหนดข้อจำกัดปริมาณ PFAS (Per- and Polyfluoroalkyl Substances) ในบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหาร รวมถึงข้อกำหนดด้านการออกแบบ การติดฉลาก และการรีไซเคิล โดยจะเริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวงกว้างตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2569 เป็นต้นไป [5]
3.Codex Alimentarius
•คณะกรรมการได้เผยแพร่เอกสารฉบับปรับปรุงล่าสุด เพื่อเสริมแนวทางการจัดการและลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อนอะฟลาทอกซินในถั่วลิสงให้สอดคล้องกับหลักความปลอดภัยอาหารในระดับสากล (Code of Practice for the Prevention and Reduction of Aflatoxin Contamination in Peanuts: CXC 55-2004) โดยท่านสามารถอ่านฉบับอัพเดทล่าสุดได้ที่นี่
4.จีน
•จีนประกาศมาตรฐานความปลอดภัยอาหารแห่งชาติ (GB Standards) ตามข้อกำหนดจาก NHC (National Health Commission) และ SAMR (State Administration for Market Regulation) ที่แก้ไขรายการวัตถุเจือปนอาหารหลายตัวอย่างเป็นทางการ โดยสาระสำคัญรวมสาร L-Malic Acid, Xanthan Gum, Ammonium Carbonate และ Acorn Shell Brown ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2569 [6]
5.ญี่ปุ่น
•มีการเปิดรับความคิดเห็นต่อร่างมาตรฐานภาชนะบรรจุเครื่องดื่มและภาชนะอาหารบางประเภท [7]
โดยมีตัวอย่างสาระสำคัญของร่างมาตรฐานดังนี้
›ภาชนะต้องผลิตจาก PET โดยไม่มีการเติมสารอื่น หรือหากมีการเติม ต้องไม่กระทบต่อสุขอนามัยและการรีไซเคิล
›ภาชนะต้องไม่มีสี
›หูหิ้วต้องทำจาก PET ไม่มีสี หรือทำจาก PE หรือ PP ที่มีความถ่วงจำเพาะต่ำกว่า 0
›อนุญาตให้มีการพิมพ์ขนาดเล็กเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น เช่น วันหมดอายุ หรือเลขล็อตการผลิต
สรุปส่งท้ายสำหรับปีนี้
ปี 2568 เป็นปีที่สะท้อนให้เห็นถึง การปรับตัวของมาตรฐานอาหารทั่วโลก อย่างชัดเจน ทั้งในด้านวัตถุเจือปนอาหาร การติดฉลาก และความยั่งยืนของห่วงโซ่อาหาร ซึ่งการติดตามและทำความเข้าใจมาตรฐานเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยและคุณภาพอาหารสำหรับผู้บริโภคอีกด้วย
บริษัท อิโตะ (ไทยแลนด์) จำกัด ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารปลอดภัยของประเทศไทย
♥สวัสดีปีใหม่ และขอให้ปีหน้ามีแต่ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนสำหรับทุกท่านค่ะ♥
เอกสารอ้างอิง
1.https://www.fda.gov/food/hfp-constituent-updates/fda-proposes-revocation-authorization-orange-b-food
4.https://www.eeas.europa.eu/delegations/thailand/eudr-faqs-thai_en
5.https://sustainabilityservices.eurofins.com/news/2025-pfas-regulations-in-europe/
6.https://www.fas.usda.gov/data/china-revised-national-food-safety-standards-food-additives-released
Related Post
-
5 เชื้อราที่พบบ่อย และผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหาร
ประเทศไทยมีภูมิอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปี (อุณหภูมิเฉลี่ย 25–35°C และความชื้นสัมพัทธ์มากกว่า 70%) ซึ่งเป็น สภาพแวดล้อมที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ โดยเฉพาะเชื้อรา จึงพบการปนเปื้อนของเชื้อราได้บ่อยครั้ง ทั้งในบริเวณที่มีความอับชื้น เช่น มุมอาคาร ระบบระบายอากาศไม่ดี และพื้นผิวที่สะสมความชื้น
-
Clean Label คืออะไร? ทำไมผู้บริโภคยุคใหม่ถึงใส่ใจฉลากอาหารมากขึ้น
ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จุดเริ่มต้นสำคัญมักเริ่มที่ "อาหาร" ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการลดการบริโภคอาหารแปรรูป (Processed Food) การเลือกอาหารที่มีฟังก์ชันเสริมสุขภาพ หรือการตรวจสอบ "ฉลากอาหาร" อย่างละเอียดก่อนซื้อ ความต้องการความโปร่งใส ความเข้าใจง่ายของรายชื่อวัตถุดิบ และการหลีกเลี่ยงสารเคมีเจือปน กลายเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไป
-
ความสูญเปล่า 7 แบบในอุตสาหกรรมอาหาร (ตอนที่ 2)
หลังจากที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ 3 ความสูญเปล่าแรกจาก Lean Manufacturing ในตอนที่ 1 แล้ว ตอนนี้ถึงเวลามาทำความรู้จักกับความสูญเปล่าอีก 4 แบบ ที่อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตของคุณ! มาดูกันว่าแต่ละข้อมีผลอย่างไรในอุตสาหกรรมอาหาร และเราจะปรับปรุงได้อย่างไรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน
-
ความสูญเปล่า 7 แบบในอุตสาหกรรมอาหาร (ตอนที่ 1)
ทำความรู้จักกับ Lean Manufacturing และวิธีลด ความสูญเปล่า (Waste) ในกระบวนการผลิตอาหาร! รู้หรือไม่ว่าการลดความสูญเปล่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ? ในคอนเท้นต์นี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับความสูญเปล่า 3 แบบแรกจาก Lean Manufacturing พร้อมตัวอย่างในอุตสาหกรรมอาหารที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง คลิกอ่านเลย เพื่อเรียนรู้วิธีการปรับปรุงกระบวนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจของคุณ!
-
ฝุ่นในอุตสาหกรรมอาหาร: มองให้ลึกถึงแหล่งที่มาและผลกระทบ
ฝุ่นละอองและอนุภาคขนาดเล็กส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารอย่างหลากหลาย ตั้งแต่คุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ไปจนถึงความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุระเบิดในโรงงาน ความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งที่มาของฝุ่นและผลกระทบจึงมีความสำคัญ เพื่อป้องกันและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตอาหาร
-
ข่าวสำคัญในอุตสาหกรรมอาหาร: ฉบับครึ่งปีหลังของ 2024
อัปเดตข่าวเด่นในวงการอุตสาหกรรมอาหาร ครึ่งปีหลัง 2024 ติดตามเหตุการณ์สำคัญ เช่น การระบาดของโรคจากอาหาร (Food Outbreak) และ การปรับปรุงกฎหมายอาหาร (Regulation Update) ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารทั่งในไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนจากการจัดการโรคระบาดหรือการปรับตัวของผู้ผลิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ มาดูว่าปีนี้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ้างในโลกของอุตสาหกรรมอาหาร


