ITO Thailand Hygiene Blog
ความสำคัญของ 5ส และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
5ส คืออะไร?
แนวคิด 5ส (5S) เป็นพื้นฐานของการจัดการด้านความสะอาดและสุขอนามัยที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการมาตรฐานสูง เช่น อาหาร ยา เครื่องสำอาง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จุดเด่นของแนวคิดนี้คือ เข้าใจง่าย อบรมได้รวดเร็ว และสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานได้เป็นอย่างดี ทำให้แนวคิดนี้เป็นที่นิยมใช้อย่างมาก
ที่มาของ 5ส
แนวคิดนี้มาจากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้ตัวอักษร “S” เป็นหลักการ 5 ข้อ ดังนี้
1.สะสาง (Seiri / せいり)
คัดแยกสิ่งที่จำเป็นและไม่จำเป็นออกจากพื้นที่การทำงาน เพื่อลดความยุ่งเหยิง
2.สะดวก (Seiton / せいとん)
จัดเก็บสิ่งของให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม หยิบใช้ง่าย ลดเวลาในการค้นหา
3.สะอาด (Seiso / せいそう)
รักษาความสะอาดของพื้นที่ เครื่องจักร และอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง
4.สุขลักษณะ (Seiketsu / せいけつ)
กำหนดมาตรฐานความสะอาดและระเบียบวินัยให้ปฏิบัติตามอย่างชัดเจน
5.สร้างนิสัย (Shitsuke / しつけ)
ปลูกฝังวินัยและความรับผิดชอบให้กลายเป็นวัฒนธรรมในองค์กร
ปัญหาที่พบบ่อยในการทำ 5ส
แม้ว่า 5ส จะเป็นแนวคิดที่ง่ายต่อการนำไปใช้ แต่หลายองค์กรกลับพบอุปสรรค เช่น
•ขาดความต่อเนื่อง : ทำเฉพาะช่วงตรวจประเมิน แต่ไม่ต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน
•ขาดการติดตามผล : ไม่มีการเก็บข้อมูลหรือหลักฐานที่ชัดเจน
•ขาดระบบกลาง : ข้อมูลกระจัดกระจาย ทำให้ตรวจสอบย้อนหลังลำบาก
เมื่อเป็นเช่นนี้ การทำ 5ส มักกลายเป็นกิจกรรมรายปี แต่ไม่สามารถสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนได้จริง
การใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการ 5ส
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วย บันทึกข้อมูล จัดเก็บ และติดตามผล ได้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่คุ้นเคย เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทำให้พนักงานทุกระดับสามารถใช้งานได้ง่าย มีความสะดวก
ลักษณะการทำงานของระบบดิจิทัลเพื่อ 5ส
ระบบดิจิทัลที่ถูกนำมาใช้ในการจัดการ 5ส มีบทบาทสำคัญในการทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบและการปรับปรุงมีความ สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส มากยิ่งขึ้น โดยหัวใจสำคัญคือการใช้ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่พนักงานทุกคนคุ้นเคย เพื่อเก็บข้อมูลในพื้นที่ปฏิบัติงานจริง
หนึ่งในฟังก์ชันที่โดดเด่นคือ การถ่ายภาพประกอบรายงาน ซึ่งช่วยบันทึกปัญหาที่พบในหน้างานได้ทันทีเช่น การจัดวางอุปกรณ์ไม่เรียบร้อย พื้นที่สกปรก หรือสิ่งกีดขวางที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง ภาพถ่ายเหล่านี้ถูกแนบลงไปในแบบฟอร์มดิจิทัลของแอปพลิเคชันได้ทันที ทำให้ลดขั้นตอนการจัดทำรายงานที่ยุ่งยากสำหรับพนักงาน และการสิ้นเปลืองทรัพยากรกระดาษโดยไม่จำเป็น รวมถึงสามารถบันทึกภาพหลังการแก้ไขปรับปรุง เพื่อใช้เป็นหลักฐานเปรียบเทียบ ทำให้ผู้บริหารหรือผู้ตรวจสอบสามารถเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บในฐานข้อมูลกลาง สามารถค้นหา ตรวจสอบย้อนหลัง และนำมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการทำงานในระยะยาวได้อย่างเป็นระบบ รวมถึงสามารถต่อยอดได้โดยการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงาน
ด้วยลักษณะการทำงานเช่นนี้ ระบบดิจิทัลเพื่อ 5ส จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือบันทึก แต่ยังเป็น เครื่องมือสื่อสารและติดตามผลการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ที่ช่วยให้องค์กรรักษามาตรฐาน 5ส ได้จริงและยั่งยืน
หากคุณสนใจการออกแบบระบบจัดการ 5ส ให้มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับการทำงานของโรงงานหรือองค์กรของคุณ สามารถติดต่อเราเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
Related Post
-
โซนสุขอนามัย (Hygiene Zone) ในโรงงาน คืออะไร?
การควบคุมคุณภาพในโรงงาน เริ่มต้นตั้งแต่ ‘โซนทางเข้า’ Hygiene Zone หรือโซนสุขอนามัย เป็นจุดแรกที่พนักงานทุกคนต้องผ่านก่อนเข้าสู่ไลน์ผลิต และเป็นหนึ่งในจุดวิกฤตที่ระบบ HACCP ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
-
9 ข้อมูลที่ควรถามก่อนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์ในโรงงานของคุณ
วางแผนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์ในโรงงานของคุณอยู่หรือไม่? ก่อนตัดสินใจเลือกอุปกรณ์ ควรตรวจสอบข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน เราได้รวบรวม เช็กลิสต์ 9 ข้อ ที่ควรถามก่อนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้ตรงกับมาตรฐานและการใช้งานจริงของหน้างาน
-
4 แหล่งที่มาและการควบคุมป้องกันเชื้อราในโรงงานอาหาร
ประเทศไทยมีภูมิอากาศร้อนชื้นตลอดปี ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ดังนั้นการพบเชื้อราในอุตสาหกรรมอาหารจึงเกิดขึ้นได้บ่อยและเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เชื้อราส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารในหลายด้าน ทั้งในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ รวมถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจและชื่อเสียงขององค์กร ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจอาหารจึงควรตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงจากเชื้อรา เข้าใจแหล่งที่มาของเชื้อรา รวมถึงวิธีการควบคุมและป้องกันอย่างถูกต้อง
-
Cobot ในอุตสาหกรรมอาหาร: พลิกโฉมไลน์ผลิตให้ปลอดภัย ยืดหยุ่น และคุ้มค่า
รู้จัก Cobot ตัวช่วยใหม่ของโรงงานอาหารยุคใหม่! หุ่นยนต์ไม่ใช่แค่แขนเหล็กในกรงอีกต่อไป วันนี้ “Cobot (Collaborative Robot)” คือคำตอบสำหรับสายการผลิตที่ต้องการความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และการทำงานร่วมกับคนได้อย่างไร้รอยต่อ
-
Air Shower – ลดการปนเปื้อน ก่อนเข้าสู่พื้นที่สะอาด
คุณกำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่? ฝุ่นและสิ่งสกปรกปนเปื้อนเข้าไปในพื้นที่ผลิต ทำให้สินค้าหรือกระบวนการผลิตมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อน พนักงานนำสิ่งปนเปื้อนเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ลดคุณภาพของสินค้า และเพิ่มโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาด ต้องใช้แรงงานทำความสะอาดพื้นที่ตลอดเวลา สิ้นเปลืองต้นทุนและเวลา แต่ปัญหาการปนเปื้อนก็ยังเกิดขึ้น การตรวจสอบมาตรฐาน GMP หรือ HACCP มีปัญหา เพราะโรงงานยังควบคุมการปนเปื้อนได้ไม่ดีพอ ถ้าปัญหาเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในโรงงานของคุณ Air Shower (แอร์ชาวเวอร์) คือคำตอบของคุณ
-
5 ปัญหาที่หาทางออกได้ด้วย เครื่องล้างพื้นรองเท้าอัตโนมัติ (Boot cleaner)
คุณกำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่? Boot Cleaner คือโซลูชันที่ช่วยคุณได้! ฝุ่น สิ่งสกปรก และเชื้อโรคติดมากับพื้นรองเท้าเข้าสู่พื้นที่ผลิต ทำให้กระบวนการผลิตเสี่ยงต่อการปนเปื้อน พนักงานไม่ปฏิบัติตามมาตรการทำความสะอาด 100% ล้างรองเท้าไม่สะอาด หรือข้ามขั้นตอนไป มีคราบวัตถุดิบ น้ำมัน จาระบี หรือสารเคมีสะสมในโรงงาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการลื่นล้ม ลดอายุการใช้งานของพื้น และปนเปื้อนข้ามสู่โซนสะอาด ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายสูงในการทำความสะอาดพื้นที่บ่อยๆ การตรวจสอบมาตรฐาน GMP, HACCP หรือ ISO อาจไม่ผ่าน เพราะโรงงานไม่มีมาตรการควบคุมการปนเปื้อนจากพื้นรองเท้า


