ITO Thailand Hygiene Blog
9 ข้อมูลที่ควรถามก่อนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์ในโรงงานของคุณ
วางแผนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์ในโรงงานของคุณอยู่หรือไม่?
ก่อนตัดสินใจเลือกอุปกรณ์ ควรตรวจสอบข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน
เราได้รวบรวม เช็กลิสต์ 9 ข้อ ที่ควรถามก่อนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้ตรงกับมาตรฐานและการใช้งานจริงของหน้างาน
หากคุณกำลังวางแผนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์ (Air Shower) ในพื้นที่ควบคุมความสะอาดของโรงงาน เช่น โซนผลิตอาหาร เครื่องดื่ม ยา เวชภัณฑ์ อาหารเสริม เครื่องสำอาง อิเล็กทรอนิกส์ หรือบรรจุภัณฑ์พลาสติก เช็กลิสต์นี้คือจุดเริ่มต้นที่ดี เพื่อช่วยคุณเลือกแอร์ชาวเวอร์ที่ตอบโจทย์พื้นที่ การใช้งาน และมาตรฐานของโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แอร์ชาวเวอร์ทำหน้าที่เป่าฝุ่นละอองหรือสิ่งปนเปื้อนออกจากร่างกายพนักงานก่อนเข้าสู่ห้องสะอาด (Cleanroom) หรือ Hygiene Zone และมักติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้า-ออกหลักของพื้นที่ผลิต การเลือกให้เหมาะกับหน้างานจึงมีผลต่อทั้งความสะดวก ความทนทาน และความต่อเนื่องของการทำงานในระยะยาว
เช็กลิสต์ก่อนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์
1.พื้นที่หน้างานที่ต้องการติดตั้ง
เริ่มจากการวัดพื้นที่ติดตั้งจริง ขนาดมาตรฐานของแอร์ชาวเวอร์สำหรับ 1–2 คนต่อรอบ อยู่ที่ประมาณ 1.0 x 1.1 เมตร หากมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ อาจต้องออกแบบพิเศษเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรามีบริการสำรวจหน้างานฟรี พร้อมแนะนำขนาดที่เหมาะสม
2.ปริมาณการสัญจรของพนักงาน
ควรทราบว่ามีพนักงานผ่านเข้า-ออกกี่คนต่อชั่วโมง เพื่อเลือกขนาดหรือจำนวนแอร์ชาวเวอร์ให้เพียงพอ ลดปัญหาคอขวดหน้าไลน์ผลิต ในกรณีที่มีพนักงานผ่านจำนวนมาก อาจเลือกให้แอร์ชาวเวอร์สามารถจุคนได้หลายคนในการทำงานหนึ่งครั้ง หรือการเลือกออกแบบเป็นอุโมงค์พร้อมทางเดินซิกแซกเพื่อเพิ่มเวลาที่พนักงานใช้ในแอร์ชาวเวอร์
3.วัสดุและการออกแบบโครงสร้าง
วัสดุควรทนต่อความชื้นและสารเคมี เช่น สแตนเลส 304 สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยา ซึ่งไม่เป็นสนิม และออกแบบให้ไม่มีซอกหลืบสะสมเชื้อจุลินทรีย์ และมีพื้นที่เหมาะสมกับรองเท้าที่ใช้ เช่น พื้นเรียบและแผ่นดักฝุ่น เหมาะกับงานที่มักมีฝุ่นละเอียดติดรองเท้า เป็นพื้นที่แห้ง การใช้พื้นเรียบทำให้ทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมฝุ่น ส่วนการเพิ่มแผ่นดักฝุ่นที่พื้นหรือด้านข้าง เป็นการลดโอกาส ปนเปื้อนซ้ำจากฝุ่นที่ตกออกจากตัวพนักงานแล้ว หรือพื้นตะแกรง เหมาะกับโซนที่อาจมีการเปียก เพราะจะปลอดภัยต่อการลื่น หรือ พื้นแบบซ่อนถาดรองฝุ่นมี่ต้องการดักสิ่งปนเปื้อนให้ตกไปใต้ตะแกรง เป็นต้น
4.แรงลมและทิศทางการเป่า
ควรมีแรงลมตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และหัวเป่าลมจัดวางในทิศทางที่ครอบคลุมลำตัวพนักงาน โดยควรตรวจสอบว่าเมื่อใช้งานจริง แรงลมยังอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด
5.ระบบกรองฝุ่น
ควรมีทั้งแผ่นกรองหยาบ (Pre-filter) และ HEPA Filter ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมสามารถเปลี่ยนไส้กรองได้ง่าย มีอะไหล่รองรับตามรอบการบำรุงรักษา แนะนำให้ทำความสะอาดแผ่นกรองหยาบเป็นระยะ และเปลี่ยน HEPA filter ตามเวลาที่กำหนด เพื่อคงประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่น
6.ระบบประตูและการควบคุม
ประตูควรเปิดได้ตามทิศทางหน้างาน ใช้พื้นที่น้อย มีระบบ interlock เพื่อไม่ให้เปิดพร้อมกันทั้งสองด้าน รวมถึงมีการควบคุมเวลาการเป่าลมให้เป็นไปตามมาตรฐาน และมีระบบ Emergency Stop กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถเปิดเพื่ออพยบพนักงานออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว
7.รองรับการคัสตอมตามความต้องการพิเศษหรือไม่
ในบางกรณี ลูกค้าอาจมีความต้องการพิเศษ เช่น การเพิ่มหัวเป่าลมจากด้านบน การเข้าทางเดียวแต่แยกทางออกหลายทาง การติดตั้งระบบยูวี (UV) เพื่อฆ่าเชื้อบนพื้นผิว การปรับแต่งเพื่อหลบท่อ คิ้วบัว หรือโครงสร้างเดิม เป็นต้น ซึ่งควรปรึกษากับผู้ผลิตก่อน ว่าสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร
8.การบำรุงรักษาและอะไหล่
ตรวจสอบว่าผู้ผลิตมีทีมบริการในประเทศหรือไม่ มีสต็อกอะไหล่พร้อมเปลี่ยนหรือซ่อมในกรณีฉุกเฉินหรือระยะยาวหรือไม่
9.การรับประกันสินค้า
ควรสอบถามรายละเอียดการรับประกัน เช่น ระยะเวลา ความครอบคลุม และบริการหลังการขายที่ชัดเจน
การเลือกแอร์ชาวเวอร์ที่เหมาะสม เริ่มจากการตั้งคำถามให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานจริงในระยะยาว ช่วยลดปัญหา ลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมมาตรฐานโรงงานได้จริง
หากคุณกำลังวางแผนติดตั้งแอร์ชาวเวอร์ ติดต่อเรา เรายินดีให้คำปรึกษา ออกแบบ และสำรวจหน้างานฟรี หรือแนบแบบแปลนพื้นที่ เพื่อรับคำแนะนำที่ตรงกับโรงงานของคุณ
Related Post
-
4 แหล่งที่มาและการควบคุมป้องกันเชื้อราในโรงงานอาหาร
ประเทศไทยมีภูมิอากาศร้อนชื้นตลอดปี ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ดังนั้นการพบเชื้อราในอุตสาหกรรมอาหารจึงเกิดขึ้นได้บ่อยและเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เชื้อราส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาหารในหลายด้าน ทั้งในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ รวมถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจและชื่อเสียงขององค์กร ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจอาหารจึงควรตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงจากเชื้อรา เข้าใจแหล่งที่มาของเชื้อรา รวมถึงวิธีการควบคุมและป้องกันอย่างถูกต้อง
-
Cobot ในอุตสาหกรรมอาหาร: พลิกโฉมไลน์ผลิตให้ปลอดภัย ยืดหยุ่น และคุ้มค่า
รู้จัก Cobot ตัวช่วยใหม่ของโรงงานอาหารยุคใหม่! หุ่นยนต์ไม่ใช่แค่แขนเหล็กในกรงอีกต่อไป วันนี้ “Cobot (Collaborative Robot)” คือคำตอบสำหรับสายการผลิตที่ต้องการความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และการทำงานร่วมกับคนได้อย่างไร้รอยต่อ
-
Air Shower – ลดการปนเปื้อน ก่อนเข้าสู่พื้นที่สะอาด
คุณกำลังเจอปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่? ฝุ่นและสิ่งสกปรกปนเปื้อนเข้าไปในพื้นที่ผลิต ทำให้สินค้าหรือกระบวนการผลิตมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อน พนักงานนำสิ่งปนเปื้อนเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ลดคุณภาพของสินค้า และเพิ่มโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาด ต้องใช้แรงงานทำความสะอาดพื้นที่ตลอดเวลา สิ้นเปลืองต้นทุนและเวลา แต่ปัญหาการปนเปื้อนก็ยังเกิดขึ้น การตรวจสอบมาตรฐาน GMP หรือ HACCP มีปัญหา เพราะโรงงานยังควบคุมการปนเปื้อนได้ไม่ดีพอ ถ้าปัญหาเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในโรงงานของคุณ Air Shower (แอร์ชาวเวอร์) คือคำตอบของคุณ
-
5 ปัญหาที่หาทางออกได้ด้วย เครื่องล้างพื้นรองเท้าอัตโนมัติ (Boot cleaner)
คุณกำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่? Boot Cleaner คือโซลูชันที่ช่วยคุณได้! ฝุ่น สิ่งสกปรก และเชื้อโรคติดมากับพื้นรองเท้าเข้าสู่พื้นที่ผลิต ทำให้กระบวนการผลิตเสี่ยงต่อการปนเปื้อน พนักงานไม่ปฏิบัติตามมาตรการทำความสะอาด 100% ล้างรองเท้าไม่สะอาด หรือข้ามขั้นตอนไป มีคราบวัตถุดิบ น้ำมัน จาระบี หรือสารเคมีสะสมในโรงงาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการลื่นล้ม ลดอายุการใช้งานของพื้น และปนเปื้อนข้ามสู่โซนสะอาด ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายสูงในการทำความสะอาดพื้นที่บ่อยๆ การตรวจสอบมาตรฐาน GMP, HACCP หรือ ISO อาจไม่ผ่าน เพราะโรงงานไม่มีมาตรการควบคุมการปนเปื้อนจากพื้นรองเท้า
-
4 เหตุผลในการเลือกใช้แปรงคุณภาพ Takasago
เลือกแปรงทำความสะอาดให้เหมาะสม เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงานอาหาร
-
7 ข้อดีของเครื่องพันฟิล์มพาเลต: เพิ่มความเร็ว ลดต้นทุน และลดแรงงานให้กับคุณ
ในอุตสาหกรรมอาหาร กระบวนการแพ็คสินค้าท้ายไลน์ (End-of-Line Packaging) มีบทบาทสำคัญในการป้องกันความเสียหายของสินค้า ลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง โดยเฉพาะการ พันฟิล์มพาเลต ซึ่งช่วยให้สินค้าคงสภาพดี ลดการปนเปื้อน และประหยัดฟิล์มได้มากกว่าการใช้แรงงานคน